ประเทศที่การศึกษาดี เหมาะกับการส่งลูกไปเรียน การวางรากฐานเรื่องการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญ ยิ่งถ้าในประเทศที่พัฒนาแล้ว คุณภาพการศึกษานั้นยิ่งอยู่ในระดับที่สูงขึ้นไปอีก และคุณภาพชีวิตก็อยุ่ในระดับที่ดีมากอีกด้วย
ประเทศที่การศึกษาดี เหมาะกับการส่งลูกไปเรียน
ประเทศฟินแลนด์

การศึกษาในประเทศฟินแลนด์ เป็นระบบการศึกษาที่มีอาหารอุดหนุนครึ่งหนึ่งแก่นักเรียนเต็มเวลา ระบบการศึกษาปัจจุบันในประเทศฟินแลนด์ประกอบด้วยโปรแกรมรับเลี้ยงเด็ก (สำหรับทารกและเด็กวัยหัดเดิน) และ “ก่อนวัยเรียน” หนึ่งปี (หรือโรงเรียนอนุบาลสำหรับเด็กวัย 6 ขวบ) ส่วนโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความสามารถทุกระดับขั้นพื้นฐานบังคับเก้าปี (เริ่มตอนอายุเจ็ดขวบและสิ้นสุดเมื่ออายุสิบหกปี) หลังมัธยมศึกษาตอนต้นแบ่งเป็นสายวิชาการและอาชีวศึกษา สำหรับอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์) และการศึกษา (ตลอดชีวิต, อย่างต่อเนื่อง) สำหรับผู้ใหญ่
ยุทธศาสตร์ของฟินแลนด์มีเพื่อให้บรรลุความเสมอภาคและความเป็นเลิศด้านการศึกษาบนพื้นฐานของการสร้างระบบโรงเรียนที่มีการเลือก, การติดตาม และการสตรีมนักเรียนในระหว่างการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไป ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์คือการแพร่กระจายเครือข่ายโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนมีโรงเรียนใกล้บ้านของพวกเขาเมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ หรือหากเป็นไปไม่ได้ เช่น ในพื้นที่ชนบท ก็อำนวยบริการขนส่งฟรีไปยังโรงเรียนอย่างแพร่หลายมากขึ้น รวมถึงการศึกษาพิเศษในห้องเรียน และความพยายามในการเรียนการสอนเพื่อลดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ต่ำ ซึ่งถือเป็นระบบการศึกษาแบบนอร์ดิกทั่วไป
สวิตเซอร์แลนด์

การศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อว่า มีการศึกษาที่ดีสุดในโลก เนื่องด้วยประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่มี ทรัพยากรธรรมชาติเหมือน ประเทศอื่น ๆ ทรัพยากรบุคคลจึงมีบทบาทสำคัญมาก แต่ละ Cantons จะรับผิดชอบ การศึกษาภายในมณฑลของตนเอง ตัวอย่างเช่น การสอนภาษาที่สอง บางมณฑลสอนตั้งแต่ เกรด 4 บางมณฑลเริ่มสอน เกรด 7 เป็นต้น เด็กนักเรียน ชาวสวิสฯ ส่วนใหญ่จะเข้าศึกษาในโรงเรียน รัฐบาล ด้วยโรงเรียนเอกชน ค่าเล่าเรียนจะค่อนข้างแพง
ประเทศเบลเยียม

เบลเยียมไม่ได้เป็นเพียงคลังเก็บของสถาปัตยกรรมและอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดตั้งอยู่หนาแน่น
ค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่ยอมรับได้ (นักเรียนได้รับความช่วยเหลือทางสังคมที่ให้คุณจ่าย 40-60% ของค่าใช้จ่ายในการศึกษา); โอกาสในการฝึกงานกับองค์กรระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเบลเยียม การศึกษาในยุโรปที่มีคุณภาพสูงสุด
ประเทศสิงคโปร์

การศึกษาของประเทศสิงคโปร์อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ที่นอกจากจะดูแลสถาบันการศึกษาของรัฐแล้ว ยังมีหน้าที่ให้คำปรึกษา และดูแลโรงเรียนเอกชนในสิงคโปร์
ในปี 2555 รัฐบาลสิงคโปร์จัดสรรงบประมาณให้กระทรวงศึกษาธิการมากที่สุดเป็นอันดับสองของ กระทรวงทั้งหมด (รองจากกระทรวงกลาโหม) – เป็นจำนวน 10,580 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 258,710 ล้านบาท) ซึ่งเท่ากับประมาณร้อยละ 40 ของ GDP ของสิงคโปร์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ประสงค์ที่จะให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา รวมทั้งเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมของเอเชีย
1. การวางโครงสร้างของระบบการศึกษาที่ดี
การศึกษาขั้นพื้นฐานของสิงคโปร์นั้นใช้ระบบอังกฤษคือ Primary (6 ปี) > Secondary (4 ปี) >A Level >O Level การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์คือ ถึงชั้น Primary 6 (เทียบเท่าชั้น ป. 6)
2. มีจุดเด่นได้แก่การเรียนสองภาษา
กล่าวคือในหลักสูตรการศึกษาในระดับประถม และมัธยมศึกษานั้นจะมีกำหนดให้เด็กนักเรียนศึกษาภาษาอังกฤษ และภาษาทางการของสิงคโปร์อีกหนึ่งภาษา (จีน มาเลย์ หรือทมิฬ)
3. มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษ
ที่ประเทศสิงคโปร์มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับประถมตอนปลาย เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน
4. รัฐให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ
- ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าชุดนักเรียน ฟรี สำหรับโรงเรียนของรัฐ ให้แก่:
- เด็กนักเรียนในครอบครัวที่มีเด็ก 1-2 คน และมีรายได้รวมไม่เกิน $1,500 ต่อเดือน
- เด็กนักเรียนในครอบครัวที่มีเด็ก 3 คนหรือมากกว่า และมีรายได้รวมไม่เกิน $1,800 ต่อเดือน
- ให้เงินอุดหนุนสำหรับเด็กนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ และปานกลาง ที่ศึกษาใน โรงเรียนมัธยมอิสระต่างๆ (ปริมาณของเงินอุดหนุนขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของครอบครัว)
5. รัฐสนับสนุนหลักสูตร Special Education Schools
ในแต่ละปี รัฐบาลสิงคโปร์จะจัดสรรงบประมาณประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อจัดทำหลักสูตร และสถาบันการศึกษาในลักษณะ Special Education Schools สำหรับเด็ก และเยาวชนสิงคโปร์เพื่อการสร้างโอกาสด้านการศึกษาที่เท่าเทียมกัน
6. หลักสูตรการเรียนในระดับประถมและมัธยมศึกษาของสิงคโปร์เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ปัจจุบันสิงคโปร์มีอิทธิพลด้านการศึกษาในระดับโลก เนื่องจากปัจจุบัน โรงเรียนต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ไทย อินโดนีเซีย ฮ่องกง อินเดีย และบางประเทศในแอฟริกา เลือกใช้หนังสือเรียน และหลักสูตรการเรียนของสิงคโปร์ในระดับประถม และมัธยมศึกษา โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการศึกษาสิงคโปร์ได้ลงนามในบันทึกความตกลงร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อต่อยอดความร่วมมือในด้านการศึกษา ซึ่งทั้งสองประเทศมีความร่วมมือระหว่างกันตั้งแต่ปี 2002
ารถ่ายภาพด้วยมือถือทำได้ง่ายมาก ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ เพราะกล้องมือถือได้รับการพัฒนาขึ้นมาจนถึงขั้นใช้งานได้ดีมากจริง ๆ เหมือนกับว่า เรากำลังพกกล้องแบบมืออาชีพไปด้วยทุกที่ทุกเวลา แต่ละค่ายจะทำมือถือออกมาเพื่อรองรับความต้องการของตลาด และผู้ใช้งาน สำหรับบางคนก็ยังมีปัญหาการถ่ายภาพเเล้วไม่สวย วันนี้เราจึงได้รวบรวมเทคนิคต่าง ๆ สำหรับ ถ่ายภาพด้วยมือถือ แต่สวยระดับโปร มาดูกันว่าจะมีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้ถ่ายภาพด้วยมือถือให้สวยขึ้น